หนึ่งในนั้นคือ กลุ่มโจรโพกผ้าแดง ก่อความเดือนร้อนไปทั่ว
ไม่ว่าชาวบ้านจะเดินทางไปทางไหน ก็ไม่สามารถหลบหนีรอดพ้นกลุ่มโจรนี้ได้
(ในภาพ เทพองครักษ์)
โจรกลุ่มนี้ปล้นสดมภ์รังควาน กวาดทรัพย์สิน จับคนเรียกค่าไถ่
จนชาวบ้านส่วนหนึ่งต้องอพยพหนีภัย ทิ้งบ้านเรือนจนร้างเพื่อหนีภัยโจร
แต่ไม่ว่าก้าวหนีไปทิศทางใด ก็ไม่อาจรอดพ้นกลุ่มโจรได้
มักโดนดักจี้กลางทางบ้าง ปล้นเผาบ้านช่องบ้าง
ไม่มีใครสามารถให้ความช่วยเหลือพวกเขาเหล่านั้นได้
ได้แต่เพียงอ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งยังเป็นไม่ผล
ในที่สุดผู้เฒ่าคนหนึ่งเสนอความคิดให้จัดกลุ่มชาวบ้าน
ยกขบวนใหญ่ไปสักการะศาลใหญ่ในเมือง
ขอความช่วยเหลือจากพระม่าจ้อโป๋ เพื่อวางฎีการ้องทุกข์ดังกล่าว
เนื่องจากคิดว่าท่านคงสามารถให้คำแนะนำ ให้ความช่วยเหลือแก่พวกตนบ้าง
เมื่อคณะมาถึงนำสิ่งของวางไว้สักการบูชา
ทันใดนั้นไม่คาดคิด บังเกิดกลุ่มเมฆฝนคล้อยเคลื่อนลงต่ำ
เกิดฟ้าคะนองอย่างหนัก ฝนตกอย่างไม่ลืมหูลืมตาโดยไม่มีวี่แววมาก่อน
มองออกไปข้างนอกมีผู้มองเห็นหญิงสาวซึ่งเข้าใจว่าเป็นพระม่าจ้อโป๋อยู่ไกลๆ
ต่อมาชาวบ้านคนหนึ่งเกิดสั่นเทาขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ
พระม่าจ้อโป๋ลงประทับร่างทรง ท่านเรียกหาพู่กันและหมึกเขียน
ท่านจับพู่กันระบายเขียนเป็นกลอนบทหนึ่ง
กลอนนั้นอ่านอย่างไพเราะเป็นนามสัมผัสทั้งหมดเป็นนามทั้ง 30 ตำบล
เมื่อถึงนามสุดท้ายเป็นเมือง ไต้จิ๋ว
พลันเมื่ออ่านจบ ทุกคนต่างไม่ทราบความทันที
แต่มีปราชญ์ผู้หนึ่งในกลุ่มกล่าวเฉลยว่า พระม่าจ้อโป๋ท่านลงมาบอกความ
ให้ชาวบ้านเดินทางไกลผ่าน 30 ตำบลดังกล่าว
โดยเดินไปให้ถึงเมืองไต้จิ๋วนั้น
แล้วจะทุกคนจะมีแต่ความปลอดภัย
ไม่ต้องผจญพบเจอกับกลุ่มโจรอีก
กล่าวว่าให้ลงหลักปักฐาน สร้างบ้านเมืองที่เมืองไต้จิ๋วแห่งนั้
เมื่อทุกคนทราบแล้ว เกิดความปิติยินดีมองเห็นแสงสว่าง
หลังจากนั้นจึงเกิดการอพยพครั้งใหญ่
ชาวบ้านอุ้มลูกจูงหลานเดินทางไกลผ่าน 30 ตำบลโดยลำดับ
ระหว่างทางนั้นเป็นที่น่าแปลกใจ ไม่พบโจรผ้าแดงเลยแม้นสักคนเดียว
ในที่สุดขบวนอพยพก็มาลุถึงเมืองไต้จิ๋ว ชาวบ้านจึงช่วยกันสร้างบ้านสร้างเมือง
บังเกิดความสงบสุข บ้านเมืองเจริญรุ่งเรืองตามลำดับตราบจนปัจจุบัน
ชาวบ้านและลูกหลานรุ่นต่อมายังคงรำลึกถึงเหตุการณ์
สำนึกในความเมตตากรุณาของพระม่าจ้อโป๋ ที่ชี้แนะทางสว่างแก่ชาวบ้าน
กล่าวว่าเมื่อชาวแต้จิ๋วอพยพเดินทางไปที่ใด จึงมักสร้างศาลบูชาท่านสืบมา
สำหรับในเมืองไทยนั้น จึงมีผู้จัดสร้างศาลเจ้าเพื่อสักการบูชาท่านอย่างมากมาย
บางแห่งสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์นี้เมื่อครั้งอดีต
จึงก่อเกิดตำนานการสร้างศาลเจ้าแม่เบิกไพร
อันหมายถึงความเมตตากรุณาของพระที่ชี้นำการบุกเบิกถิ่นดงพงไพร
เพื่อสร้างบ้านเมืองขึ้นมาใหม่นั่นเอง
(ในภาพ เทพองครักษ์ และเทพอสูร ไซลี้มัก)
ในเมืองไทยศาลพระเทียนโฮ่วเซี่ยบ้อในนาม เจ้าแม่เบิกไพร ที่เก่าแก่ศาลแรกนั้น
ตั้งอยู่ที่ตำบลเบิกไพร อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี
เรียบเรียงโดย บุนเต้หลาง เมื่อ 14 พฤษภาคม ปีพุทธศักราช 2550
(ในภาพ เทพองครักษ์ และเทพอสูร ตุนฮวงหงี)