การปลูกผมถาวร FUE เป็นอีกหนึ่งวิธีการรักษาผมร่วง ผมบาง และศีรษะล้านที่หลาย ๆ คนเลือกใช้ แถมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจำนวนไม่น้อยต่างก็ยกย่องให้การปลูกผมแบบ FUE นี้เป็นอีกหนึ่งวิธีการปลูกผมที่เห็นผลลัพธ์ ราคาคุ้มค่า แถมบางเคสไม่ต้องโกนผมให้สั้นก็สามารถปลูกผมได้ตามต้องการอีกด้วย
อย่างไรก็ดี ก่อนที่ตัดสินใจเลือกปลูกผมถาวร FUE กับคลินิก หรือ ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันไหนก็ตาม วันนี้เราอยากขอเวลา 3 นาทีสั้น ๆ เพื่อชวนทุกคนไปทำความรู้จักกับ 3 ข้อควรรู้เกี่ยวกับการปลูกผมแบบ FUE กัน แต่จะมีอะไรบ้างนั้น มาดูไปพร้อมกันได้เลย

การปลูกผม FUE เหมาะกับใคร?
การปลูกผมแบบ FUE นั้นเป็นการปลูกผมที่มีประสิทธิภาพและได้ผลลัพธ์ที่เป็นที่น่า เหมาะสำหรับทั้งผู้หญิงและผู้ชายที่มีปัญหาเส้นผม ผมบาง และศีรษะล้าน โดยการปลูกผมถาวร FUE นี้จะเป็นเทคนิคการปลูกผมที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการเลือกผมจากบริเวณหลังศีรษะ หรือ Donor Area ซึ่งเมื่อได้กอผมมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แพทย์ก็จะทำการเจาะรูที่หนังศีรษะไว้ จากนั้นจึงนำผมมาปลูกตามรูที่ได้เจาะเอาไว้ ทำให้ผมที่ปลูกจะมีความแข็งแรง และมีความเป็นธรรมชาติสูง
ปลูกผมถาวร FUE ดูแลรักษาแผลยากไหม?
แผลที่เกิดขึ้นจากการปลูกผมแบบ FUE นั้นมีขนาดเล็กเพียง 0.7 - 1.5 มิลลิเมตรเท่านั้น จึงทำให้ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน สามารถสระผมและทำความสะอาดแผลได้หลังจากปลูกผมได้ 7 - 15 วัน แต่อย่างไรดี การปลูกผม FUE บางเคสจำเป็นที่จะต้องโกนผมเพื่อเจาะรูที่หนังศีรษะ ซึ่งหากไม่ดูแลให้ดีก็อาจเกิดเป็นรอยแผลเป็นได้เช่นกัน
ข้อควรระวังในการปลูกผมถาวร FUE
นอกจากจะดูความเหมาะสมและดูแลรักษาแผลหลังปลูกผมแล้ว การปลูกผมถาวร FUE ยังมีเรื่องควรระวังในเรื่องของโอกาสการปลูกผมด้วย เพราะการปลูกผมวิธีนี้จะใช้คีมปลายแหลมเพื่อเจาะผมและนำมาปลูก ซึ่งการทำเช่นนี้ รากผมและเซลล์รากผมก็อาจเกิดความช้ำ และทำให้โอกาสปลูกผมขึ้นน้อยลงไปด้วย ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาในส่วนนี้ หากใครสนใจจะปลูกผมแบบ FUE ก็ควรพิจารณาเลือกความเชี่ยวชาญของแพทย์ประกอบกันไปด้วย
เพียงเท่านี้ ทุกคนก็สามารถพิจารณาความเหมาะสมเรื่องการปลูกผมแบบ FUE เรียบร้อยแล้ว หากใครกำลังวางแผนปลูกผม หรือ มีปัญหาผมบาง ผมร่วง หรือศีรษะล้าน อย่าลืมนำข้อควรรู้เรื่องการปลูกผมแบบ FUE นี้ไปพิจารณาประกอบการตัดสินใจด้วยนะ